Pages

Monday, July 4, 2011

คนอิสราเอลใช้เวลาอยู่ในอียิปต์ 400 หรือ 430 ปี

ก่อนอื่นเรามาดูด้วยกันว่ามีพระคัมภีร์ข้อไหนบ้าง ที่อ้างอิงว่า คนอิสราเอลใช้เวลาอยู่ในอียิปต์ 400 ปี
ปฐมกาล 15:13-14
พระองค์จึงตรัสแก่อับรามว่า "เจ้าจงรู้แน่เถิดว่าพงศ์พันธุ์ของเจ้าจะเป็นคนต่างด้าวในดินแดนซึ่งมิใช่ที่ของเขา และเขาจะต้องรับใช้ชาวเมืองนั้น ชาวเมืองนั้นจะบีบบังคับเขาถึงสี่ร้อยปี ส่วนประเทศที่เขารับใช้อยู่นั้น เราจะพิพากษาลงโทษ ต่อมาพงศ์พันธุ์ของเจ้าจะออกมา มีทรัพย์สมบัติมาก

กิจการของอัครทูต 7:6-7
พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เชื้อสายของท่านจะไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศ และชาวประเทศนั้นจะเอาเขาเป็นทาส และจะข่มเหงเขาเป็นเวลาสี่ร้อยปี แล้วพระเจ้าตรัสว่า "และประเทศที่เขาปรนนิบัติอยู่นั้น เราจะพิพากษาลงโทษ ภายหลังเขาจะออกมาและปรนนิบัติเรา ณ สถานที่นี้

และมีพระคัมภีร์ข้อไหนบ้างที่อ้างอิงว่า 430 ปี
อพยพ 12:40-41
ชนชาติอิสราเอลอยู่ในอียิปต์เป็นเวลาสี่ร้อยสามสิบปี ครั้นสิ้นสี่ร้อยสามสิบปีแล้ว ในวันนั้นเองพลโยธาของพระเจ้าก็ยกออกจากประเทศอียิปต์

และมาดูภาษาอังกฤษบ้าง
Ex 12:40-41
Now the sojourn of the children of Israel who lived in Egypt was four hundred and thirty years. And it came to pass at the end of the four hundred and thirty years -- on that very same day -- it came to pass that all the armies of the LORD went out from the land of Egypt (NKJV)

กาลาเทีย 3:15-17
ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่างสักเรื่องหนึ่ง ถึงแม้เป็นคำสัญญาของมนุษย์ เมื่อได้รับรองกันแล้ว ไม่มีผู้ใดจะล้มเลิกหรือเพิ่มเติมขึ้นอีกได้ บรรดาพระสัญญาที่ได้ประทานไว้แก่อับราฮัมและพงศ์พันธุ์ของท่านนั้น มิได้ตรัสว่า และแก่พงศ์พันธุ์ทั้งหลาย เหมือนอย่างกับว่าแก่คนมากคน แต่เหมือนกับว่าแก่คนผู้เดียวคือ แก่พงศ์พันธุ์ของท่าน ซึ่งเป็นพระคริสต์ ข้าพเจ้าว่า ธรรมบัญญัติซึ่งมาภายหลังถึงสี่ร้อยสามสิบปี จะทำลายพันธสัญญาซึ่งพระเจ้าได้ทรงตั้งไว้เมื่อก่อนนั้น ให้เป็นโมฆะไม่ได้

แท้จริงมีพระคัมภีร์กล่าวถึงตัวเลข 450 ปี ตัวอย่างพระคัมภีร์ที่อ้างอิงว่า 450 ปี
กิจการของอัครทูต 13:16-21
ฝ่ายเปาโลจึงยืนขึ้นโบกมือแล้วกล่าวว่า "ท่านที่เป็นชนชาติอิสราเอลและท่านทั้งหลายที่เกรงกลัวพระเจ้า จงฟังเถิด พระเจ้าของชนชาติอิสราเอลนี้ ได้ทรงเลือกบรรพบุรุษของเราไว้ และได้ให้เขาเจริญขึ้นครั้งเมื่อยังเป็นแขกเมืองในประเทศอียิปต์ และได้ทรงนำเขาออกจากประเทศนั้นด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ พระองค์ได้ทรงอดทนต่อความประพฤติของเขา ในถิ่นทุรกันดารประมาณสี่สิบปี เมื่อพระองค์ได้ทรงล้างผลาญชนเจ็ดชาติออกเสียจากแผ่นดินคานาอันแล้ว ก็ทรงแบ่งแผ่นดินของชนชาติเหล่านั้นประทานให้เป็นมรดก แก่บรรพบุรุษของเราอยู่ ประมาณสี่ร้อยห้าสิบปี ภายหลังพระองค์ทรงประทานพวกผู้วินิจฉัยแก่เขาจนถึงซามูเอลผู้เผยพระวจนะ คราวนั้นเขาทั้งหลายได้ขอให้มีกษัตริย์ พระเจ้าจึงได้ทรงประทานซาอูลบุตรคีชจากเผ่าเบนยามินให้เป็นกษัตริย์ครบสี่สิบปี

ตรงนี้น่าจะสอดคล้องกับตัวเลข 400 ปีใน ปฐมกาล 15:13-14 และ กิจการของอัครทูต 7:6-7 โดยเขาคำนวนดังนี้
400 ปี คือ ตั้งแต่พระเจ้าทรงกระทำพันธสัญญาต่อพงศพันธุ์ของอับราฮัม
40 ปี คือ ช่วงที่วนเวียนในถิ่นทุรกันดาร
10 ปี คือ ช่วงที่ยึดคานาอัน

คำอธิบายในการตีความเรื่องจำนวนเวลา 400 หรือ 430 ปี

1. การตีความเรื่องเวลาที่ระบุไว้ในพระคัมภีร์แต่ละข้อ

ความผิดพลาดในการตีความเรื่องอายุอาจเกิดขึ้น เมื่อเราไม่ได้มองประโยคจากภาษาเดิม จากพระวจนะในข้อ อพยพ 12:40-41 ในภาษาอังกฤษฉบับ New King James ได้ระบุว่า “Now the sojourn of the children of Israel who lived in Egypt was four hundred and thirty years” ซึ่งแปลได้ว่า “และบัดนี้ นับตั้งแต่การเร่ร่อนของลูกหลานของอิสราเอลผู้อาศัยในอียิปต์ก็เป็นเวลา 430 ปีแล้ว” ซึ่งทำให้เราสามารถตีความได้ว่า พระคัมภีร์อาจจะนับรวมช่วงเวลาตั้งแต่พระเจ้าประทานพันธสัญญากับอับราฮัมเกี่ยวกับลูกหลานของท่าน (คำว่า ลูกหลานของอิสราเอล อาจนับรวมตั้งแต่อับราฮัมได้ซึ่งสอดคล้องกับพระธรรม กท.3:15-17) ได้รับการทรงเรียกให้ออกจากฮารานจนมาถึงการปลดปล่อยอิสราเอลจากอียิปต์คือ ตอนที่โมเสสได้นำพาอิสราเอลออกจากอียิปต์

ใน ปฐมกาล 12:1-4 ได้ระบุถึงเหตุการณ์ที่พระเจ้าทรงเรียกอับราฮ้มออกจากฮาราน
พระเจ้าตรัสแก่อับรามว่า "เจ้าจงออกจากเมืองจากญาติพี่น้องจากบ้านบิดาของเจ้า ไปยังดินแดนที่เราจะบอกให้เจ้ารู้ เราจะให้เจ้าเป็นชนชาติใหญ่ เราจะอวยพรแก่เจ้า จะให้เจ้ามีชื่อเสียงใหญ่โตเลื่องลือไป แล้วเจ้าจะช่วยให้ผู้อื่นได้รับพร เราจะอำนวยพรแก่คนที่อวยพรเจ้า เราจะสาปคนที่แช่งเจ้า บรรดาเผ่าพันธุ์ทั่วโลกจะได้พรเพราะเจ้า" ฝ่ายอับรามก็ไปตามพระดำรัสของพระเจ้าโลทก็ไปด้วย เมื่ออับรามออกจากเมืองฮารานนั้น อายุได้เจ็ดสิบห้าปี

และใน กาลาเทีย 3:15-17 ได้ระบุว่า ตัวเลข 430 ปีนั้น เขานับตั้งแต่พระเจ้าทรงกระทำพันธสัญญากับอับราฮัมจนกระทั่งถึงวันที่พระเจ้าปลดปล่อยอิสราเอลจากอียิปต์และประทานพระบัญญัติแก่โมเสส

กาลาเทีย 3:15-17
ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่างสักเรื่องหนึ่ง ถึงแม้เป็นคำสัญญาของมนุษย์ เมื่อได้รับรองกันแล้ว ไม่มีผู้ใดจะล้มเลิกหรือเพิ่มเติมขึ้นอีกได้ บรรดาพระสัญญา ที่ได้ประทานไว้แก่อับราฮัมและพงศ์พันธุ์ของท่านนั้น มิได้ตรัสว่า และแก่พงศ์พันธุ์ทั้งหลาย เหมือนอย่างกับว่าแก่คนมากคน แต่เหมือนกับว่าแก่คนผู้เดียวคือ แก่พงศ์พันธุ์ของท่าน ซึ่งเป็นพระคริสต์ ข้าพเจ้าว่า ธรรมบัญญัติซึ่งมาภายหลังถึงสี่ร้อยสามสิบปี จะทำลายพันธสัญญาซึ่งพระเจ้าได้ทรงตั้งไว้เมื่อก่อนนั้น ให้เป็นโมฆะไม่ได้

ดังนั้น เราไม่อาจจะใช้การนับช่วงเวลาของยาโคบหรือโยเซฟเข้ามาที่อียิปต์มาตั้งเพื่อคำนวนหาช่วงเวลาว่าเป็น 400 หรือ 430 ปี เพราะพระคัมภีร์ไม่ได้ระบุว่านับตั้งแต่ยาโคบเข้ามาในอียิปต์ แต่ในภาษาเดิมให้ความหมายว่า พวกเขานับตั้งแต่พระเจ้าทรงกระทำพันธสัญญากับอับราฮัม และเขาได้เดินทางออกมาจากบ้านเกิดเมืองนอน และเร่ร่อนในอียิปต์

สิ่งที่ควรตระหนักเสมอคือ เราควรมองพระคัมภีร์จากภาษาเดิม ซึ่งฉบับ New King James แปลได้ตรงภาษาเดิมมากกว่าภาษาไทย นอกจากนี้ เราควรพิจารณาพระคัมภีร์ในทุกข้อทุกตอนไม่ใช่ตอนใดตอนหนึ่งของอพยพแต่ควรพิจารณากาลาเทียหรืออื่นๆ ด้วย

2. หลักการคำนวนช่วงระยะเวลาตั้งแต่พันธสัญญาอับราฮัมจนถึงอิสราเอลออกจากอียิปต์

การคำนวนมีดังนี้
คำนวนจากพันธสัญญาที่พระเจ้ามีกับอับราฮัมจนถึงอิสราเอลออกจากอียิปต์ โดยคำนวนที่ 400 กับ 430 ปี





หากเราตั้งตัวเลข 430 ปีของคนอิสราเอลเข้ามาในอิยิปต์ และหักช่วงเวลาของอายุโมเสส คือ 80 ปีซึ่งเป็นอายุตอนที่เขานำคนอิสราเอลออกจากอียิปต์ เราจะพบว่า จากวันที่โยเซฟจากไปจนกระทั่งถึงโมเสสเกิดจะได้เท่ากับ 144-80 = 64 ปี แต่ถ้าเราเอาตัวเลข 400 ปีของคนอิสราเอลเข้ามาในอิยิปต์ และหักช่วงเวลาของอายุโมเสส คือ 80 ปี ซึ่งเป็นอายุตอนที่เขานำคนอิสราเอลออกจากอียิปต์ เราจะพบว่า จากวันที่โยเซฟจากไปจนกระทั่งถึงโมเสสเกิดจะได้เท่ากับ 114-80 = 34 ปี ซึ่งน่าจะน้อยเกินไป

นั่นหมายความว่า ความน่าจะเป็นไปได้มากกว่าคือ นับเป็นเวลา 64 ปีหลังจากโยเซฟตาย โมเสสจึงเกิดมา!

ด้วยเหตุนี้ หากเราคำนวนเวลานับตั้งแต่ยาโคบเข้าไปในอียิปต์โดยเทียบกับเวลา 400 หรือ 430 ปี เราจะสับสนและไม่มีทางพบช่วงเวลาที่ลงตัว เพราะหากเราดูจากการบันทึกพงศ์พันธุ์ของโมเสส ซึ่งเริ่มจากเลวีผู้เป็นบุตรยาโคบ เราจะพบว่า จริงๆ แล้วโคฮาทลูกของเลวี ก็เกิดแล้วตั้งแต่ยาโคบย้ายมาอยู่ในอียิปต์

ปฐมกาล 46:8
ต่อไปนี้เป็นชื่อเชื้อสายของอิสราเอลที่เข้าไปในอียิปต์ ทั้งยาโคบและบุตรชายของท่าน คือ รูเบนบุตรหัวปีของยาโคบ และบุตรของรูเบนคือ ฮาโนค ปัลลู เฮสโรน และคารมี บุตรของสิเมโอน คือเยมูเอล ยามีน โอหาด ยาคีน และโศหาร์ กับชาอูล บุตรของหญิงคนคานาอัน บุตรเลวีคือ เกอร์โชน โคฮาท และเมรารี

ซึ่งโคฮาทมีอายุ 137 ปี โดยมีโมเสสเป็นหลานของเขา หากเราจะพยายามคำนวนหาช่วงเวลานับตั้งแต่ยาโคบ เลวี โคฮาท อับราม จนมาถึงโมเสสจะไม่มีทางเป็นไปไม่ได้ ที่จะได้ตัวเลขเป็น 430 หรือ 400 ปีแน่นอน

3. การคำนวนหาจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกันระหว่าง 400 กับ 430 ปี

มาถึงจุดนี้ เรามีคำถามที่น่าสนใจว่า ความแตกต่างระหว่างจุดเริ่มต้นของจำนวน 400 และ 430 คือ จุดไหนของช่วงชีวิตอับราฮัม เราพบว่า ช่วงเวลา 400 ปี ถูกเริ่มบันทึกไว้ใน ปฐมกาล 15:13-14 โดยกล่าวว่า “พงศ์พันธุ์ของเจ้าจะเป็นคนต่างด้าวในดินแดนซึ่งมิใช่ที่ของเขา และเขาจะต้องรับใช้ชาวเมืองนั้น ชาวเมืองนั้นจะบีบบังคับเขาถึงสี่ร้อยปี” ซึ่งข้อความระบุถึง ลูกหลานของอับราฮัมมากกว่าตัวอับราฮัมเอง

มีทฤษฎีของนักวิชาการที่อธิบายจุดเริ่มต้นของการนับที่แตกต่างกัน 30 ปีว่ามาจากไหน ดังนี้

นักวิชาการเชื่อว่า
การคำนวน 430 ปีน่าจะเริ่มนับตั้งแต่พระเจ้าทรงเรียกอับราฮัมออกจากฮาราน
การคำนวน 400 ปีน่าจะเริ่มนับตั้งแต่พงศ์พันธุ์ของอับราฮัมซึ่งก็หมายถึง อิสอัค ซึ่งอิสอัคเกิดเมื่ออับราฮัมออกจากฮารานมาแล้ว 25 ปี อีก 5 ปีที่เหลืออยู่ตรงไหน

นักวิชาการให้คำตอบว่า จาก
ปฐมกาล 21:8-12
เด็กนั้นก็เติบโตขึ้นและหย่านมและอับราฮัมจัดการเลี้ยงใหญ่ในวันนั้นเมื่ออิสอัคหย่านม แต่ซาราห์เห็นบุตรชายของฮาการ์คนอียิปต์ซึ่งนางคลอดให้อับราฮัม กำลังเล่นอยู่กับอิสอัคบุตรชาย นางจึงพูดกับอับราฮัมว่า "ไล่ทาสหญิงคนนี้กับบุตรชายของนางไปเสียเถิด เพราะว่าบุตรชายของทาสหญิงคนนี้จะเป็นผู้รับมรดกร่วมกับอิสอัคบุตรชายของฉันไม่ได้" อับราฮัมกลุ้มใจ เพราะเรื่องบุตรชายของท่าน แต่พระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่า "อย่ากลุ้มใจเพราะเรื่องเด็กนั้น และทาสหญิงของเจ้า ซาราห์ขออะไรก็จงยอมตามที่นางขอเถิด เพราะชื่อของเจ้าจะสืบต่อไปทางเชื้อสายอิสอัค

ข้อพระคัมภีร์ตอนนี้เป็นเหมือนตราประทับของพระเจ้าที่มอบให้อิสอัคอย่างเป็นทางการที่จะเป็นเชื้อสายของอับราฮัม ไม่ใช่อิชมาเอล โดยช่วงเวลาหย่านมน่าจะกินเวลาอีกประมาณ 5 ปี ซึ่งสอดคล้องกับพระธรรม กิจการฯ 7:6-7 ซึ่งได้กล่าวว่า หากนับที่เชื้อสายจะได้ 400 ปี

กิจการของอัครทูต 7:6-7
พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เชื้อสายของท่านจะไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศ และชาวประเทศนั้นจะเอาเขาเป็นทาส และจะข่มเหงเขาเป็นเวลาสี่ร้อยปี แล้วพระเจ้าตรัสว่า "และประเทศที่เขาปรนนิบัติอยู่นั้น เราจะพิพากษาลงโทษ ภายหลังเขาจะออกมาและปรนนิบัติเรา ณ สถานที่นี้

อ้างอิง: http://www.t-cog.org/Articles/The%20400%20Years.pdf: Don Roth

No comments:

Post a Comment