Is Jesus God? Is Jesus the Savior?
พอดีไปอ่านเจอมา ก็ เลยเอามาให้อ่าน ประเด็นหลักๆ 6 เรื่องจาก The Da vinci code ที่มีการบิดเบือนพระคัมภีร์ค่ะ
1 หนังสือดาวินชี่โคดระบุว่าพระเยซูไม่ตายจริงแต่แต่งงานมีลูก
*** แต่มีหลักฐาน พยานว่าพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์จริงหลังถูกตรึงบนกางเขนและฟื้นพระชนม์จริง
ส่วนหลักฐานเรื่องการมีครอบครัวและการครองเรือนของพระเยซูกับมารีย์ไม่มีจริง
2.กษัตริย์คอนสแตนตินแก้ไขพระคัมภีร์
***จุดสังเกตคือพระคัมภีร์มีต้นฉบับเดิมอยู่แล้วดังนั้นจึงไม่สามารถแก้ไขใหม่อย่างการกล่าวอ้าง
อีกทั้งยังมีหลักฐานการบันทึกพระคัมภีร์จริงๆ****
3.การแต่งงานและการมีทายาทของพระเยซู
***จุดสังเกตคือ ในพระคัมภีร์ไม่มีข้อห้ามเรื่องการแต่งงานถ้ามีการแต่งงานจริงก็ไม่จำเป็นต้องปกปิด
แต่ถ้าคิดว่าเป็นปัญหาการที่มารีย์ตั้งครรภ์พระเยซูโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ก่อนแต่งงานกับโยเซฟยังถือว่าสุ
่มเสี่ยงต่อโทษที่จะเกิดขึ้นมากกว่าค่ะ***
ประเด็นที่ 4 น่ะค่ะ...แดน บราวน์ บอกว่า แมรี่ แมกดาลีน เป็นสาวกหญิงที่มีความสำคัญน้อยกว่าสาวกชาย
เป็นคู่แข่งของเปโตร และกำลังจะถูกฆ่า ประเด็นนี้เน้นไปที่การถูกกดขี่ ข่มเหงทางเพศ
การกดผู้หญิงต่ำกว่าผู้ชาย (จากการกล่าวอ้าง โดยภาพวาดที่มีมีดจ่อหลัง)
*** จุดสังเกต พระคัมภีร์ไม่เคยสอนให้มีการเหยียดเพศแม่ค่ะ
แต่กลับยกย่องให้ความสำคัญกับผู้หญิงในการรับใช้งานพระเจ้าเสมอ
อีกทั้งนิกายคาทอลิกก็ยังยกย่องพระแม่มารีย์มากๆด้วยซ้ำไป
ส่วนภาพที่กล่าวอ้างเป็นเพียงมโนความคิดจินตนาการของจิตรกร ซึ่งภาพดังกล่าว ไม่ใช่แมรี่
แมกดาลีนแต่เป็นยอห์นค่ะ...เพียงแต่คนวาดมีรสนิยมทางเพศเบี่ยนเบนรวมทั้งสมัยนั้นจิตรกรชอบวาดให้ผู้ชายมี
ใบหน้าสวยงามดุจหญิงสาวก็เท่านั้นเองค่ะ
จุดสังเกตข้อ 5 ..เรื่องสาแหรกหรือพงศ์พันธ์ของเชื้อสายพระเยซูนั้นไม่มีหลักฐานจริงทางประวัติศาสตร์
รวมทั้งหลักฐานเชื้อสายของแมรี่ แมกดาลีนที่ นายแดน บราวน์อ้างว่าเป็นเชื้อพระวงศ์จากฝรั่งเศส
ก็ไม่มีจริงเป็นการกุเรื่อง ไม่มีข้อมูลและหลักฐานมายืนยัน..
อืม....อย่างไรก็ตาม..ความจริงเคยมีหลักฐานที่เด้ปลอมแปลงขึ้นมาเท่านั้นค่ะ
ซึ่งคนที่ปลอมแปลง"นายพล็องตาร์ด"ได้ออกมายอมรับสารภาพต่อศาลประเทศฝรั่งเศสแล้วในปี 1993
ว่าประดิษฐ์เอกสารปลอมขึ้นมาค่ะ
จุดสังเกต***ชาวยิวให้ความสำคัญอย่างมากกับการทำประวัติประชากรค่ะ
หมาเฝ้าบ้านจำได้ว่าตอนพระเยซูจะประสูติโยเซฟและมารีย์ก็เดินทางกับถิ่นฐานเพื่อการนี้เช่นกัน
จำได้มั้ยค่ะ ดังนั้นถ้าการกล่าวอ้างเป็นจริงยังไงก็ต้องมีข้อมูลหลักฐานมายันกันค่ะ
ข้อต่อมาเรื่องจอกศักดิ์สิทธิ์ที่แดน บราวน์ตีความว่าเป็น ถ้วยรองรับเลือดพระเยซู
เสมือนการบอกถึงเชื้อสาย ทายาทของพระองค์
****จุดสังเกตว่า(มั่ว..อีกแล้ว)...คือในสมัยสงครามครูเสด ที่มีทั้งหมด 9
ครั้งนั้นได้พบของศักดิ์สิทธิ์ในตำนานจากการเล่าขานจำนวนมากหลายต่อหลายชิ้นอยู่แล้ว
..ดังนั้นการที่จอกศักดิ์สมัยอาหารมื้อสุดท้าย"ลาส ซัพเพอร์"ในภาพวาดแล้วเอามาโยงกันมั่วๆ
ถือว่าเป็นเพียงนิยายซ้อนนิยาย
เพราะของจริงที่พระเยซูใช้ดื่มเหล้าองุ่นร่วมกับสาวกผ่านมาเป็นพันๆปีก็คงแตก หัก พัง ไปแล้วล่ะค่ะ****
นอกจาก 6 ข้อหลันี้ยังมีจุดบอดของหนังสือและหนังลวงโลกของนายแดน บราวน์ อีกมากมายค่ะ
ที่แสดงให้เห็นว่าเจตนาของคนผู้นี้เพียงแค่เอาเรื่องของพระเจ้ามาขายกิน
อีกทั้งยังกุเรื่องบิดเบือนประวัติศาสตร์และพระคัมภีร์ซึ่งมีผลกระทบต่อความอ่อนไหวของผู้เชื่อบางคน
เมื่อเรารู้ความจริงว่าเขาโกหกก็ยิ่งต้องหนักแน่นต่อความเชื่อน่ะค่ะ
...อย่าลืมว่าการแก้แค้นเป็นของพระองค์
เราเพียงอธิษฐานขอให้พระเจ้าคุ้มครองความเชื่อของพี่น้องคริสเตียนทั่วโลกและถือโอกาสนี้ประกาศกับคนที่สง
สัยในเรื่องดังกล่าวด้วยท่าทีที่เหมาะสม ถือว่าเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ก็เยี่ยมแล้วค่ะ.........
เป็นคู่แข่งของเปโตร และกำลังจะถูกฆ่า ประเด็นนี้เน้นไปที่การถูกกดขี่ ข่มเหงทางเพศ
การกดผู้หญิงต่ำกว่าผู้ชาย (จากการกล่าวอ้าง โดยภาพวาดที่มีมีดจ่อหลัง)
*** จุดสังเกต พระคัมภีร์ไม่เคยสอนให้มีการเหยียดเพศแม่ค่ะ
แต่กลับยกย่องให้ความสำคัญกับผู้หญิงในการรับใช้งานพระเจ้าเสมอ
อีกทั้งนิกายคาทอลิกก็ยังยกย่องพระแม่มารีย์มากๆด้วยซ้ำไป
ส่วนภาพที่กล่าวอ้างเป็นเพียงมโนความคิดจินตนาการของจิตรกร ซึ่งภาพดังกล่าว ไม่ใช่แมรี่
แมกดาลีนแต่เป็นยอห์นค่ะ...เพียงแต่คนวาดมีรสนิยมทางเพศเบี่ยนเบนรวมทั้งสมัยนั้นจิตรกรชอบวาดให้ผู้ชายมี
ใบหน้าสวยงามดุจหญิงสาวก็เท่านั้นเองค่ะ
จุดสังเกตข้อ 5 ..เรื่องสาแหรกหรือพงศ์พันธ์ของเชื้อสายพระเยซูนั้นไม่มีหลักฐานจริงทางประวัติศาสตร์
รวมทั้งหลักฐานเชื้อสายของแมรี่ แมกดาลีนที่ นายแดน บราวน์อ้างว่าเป็นเชื้อพระวงศ์จากฝรั่งเศส
ก็ไม่มีจริงเป็นการกุเรื่อง ไม่มีข้อมูลและหลักฐานมายืนยัน..
อืม....อย่างไรก็ตาม..ความจริงเคยมีหลักฐานที่เด้ปลอมแปลงขึ้นมาเท่านั้นค่ะ
ซึ่งคนที่ปลอมแปลง"นายพล็องตาร์ด"ได้ออกมายอมรับสารภาพต่อศาลประเทศฝรั่งเศสแล้วในปี 1993
ว่าประดิษฐ์เอกสารปลอมขึ้นมาค่ะ
จุดสังเกต***ชาวยิวให้ความสำคัญอย่างมากกับการทำประวัติประชากรค่ะ
หมาเฝ้าบ้านจำได้ว่าตอนพระเยซูจะประสูติโยเซฟและมารีย์ก็เดินทางกับถิ่นฐานเพื่อการนี้เช่นกัน
จำได้มั้ยค่ะ ดังนั้นถ้าการกล่าวอ้างเป็นจริงยังไงก็ต้องมีข้อมูลหลักฐานมายันกันค่ะ
ข้อต่อมาเรื่องจอกศักดิ์สิทธิ์ที่แดน บราวน์ตีความว่าเป็น ถ้วยรองรับเลือดพระเยซู
เสมือนการบอกถึงเชื้อสาย ทายาทของพระองค์
****จุดสังเกตว่า(มั่ว..อีกแล้ว)...คือในสมัยสงครามครูเสด ที่มีทั้งหมด 9
ครั้งนั้นได้พบของศักดิ์สิทธิ์ในตำนานจากการเล่าขานจำนวนมากหลายต่อหลายชิ้นอยู่แล้ว
..ดังนั้นการที่จอกศักดิ์สมัยอาหารมื้อสุดท้าย"ลาส ซัพเพอร์"ในภาพวาดแล้วเอามาโยงกันมั่วๆ
ถือว่าเป็นเพียงนิยายซ้อนนิยาย
เพราะของจริงที่พระเยซูใช้ดื่มเหล้าองุ่นร่วมกับสาวกผ่านมาเป็นพันๆปีก็คงแตก หัก พัง ไปแล้วล่ะค่ะ****
นอกจาก 6 ข้อหลันี้ยังมีจุดบอดของหนังสือและหนังลวงโลกของนายแดน บราวน์ อีกมากมายค่ะ
ที่แสดงให้เห็นว่าเจตนาของคนผู้นี้เพียงแค่เอาเรื่องของพระเจ้ามาขายกิน
อีกทั้งยังกุเรื่องบิดเบือนประวัติศาสตร์และพระคัมภีร์ซึ่งมีผลกระทบต่อความอ่อนไหวของผู้เชื่อบางคน
เมื่อเรารู้ความจริงว่าเขาโกหกก็ยิ่งต้องหนักแน่นต่อความเชื่อน่ะค่ะ
...อย่าลืมว่าการแก้แค้นเป็นของพระองค์
เราเพียงอธิษฐานขอให้พระเจ้าคุ้มครองความเชื่อของพี่น้องคริสเตียนทั่วโลกและถือโอกาสนี้ประกาศกับคนที่สง
สัยในเรื่องดังกล่าวด้วยท่าทีที่เหมาะสม ถือว่าเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ก็เยี่ยมแล้วค่ะ.........
No comments:
Post a Comment